5 ความแตกต่างของยางรถ EV กับยางรถยนต์ทั่วไป
รู้หรือไม่? ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นใช้ยางรถที่แตกต่างออกไปจากยางรถยนต์ทั่วไป ซึ่งต้องออกแบบมาโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อรองรับสมรรถนะการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์เรื่องระยะการขับขี่ไปจนถึงการลดเสียงรบกวนบนท้องถนน
และนี่คือ 5 ความแตกต่างของของยางรถ EV กับยางรถยนต์ทั่วไป
ความแตกต่างที่ 1: ยางรถ EV ลดการเกิดเสียงได้ดี
การขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีเสียงเงียบกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ภายใต้ฝากระโปรงรถ ทำให้ขณะขับรถยนต์ไฟฟ้า เราจะได้ยินเสียงจากท้องถนนได้ชัดเจนมากขึ้น ยางรถ EV จึงถูกออกแบบมาให้เงียบเป็นพิเศษ เพื่อลดเสียงรบกวนที่เข้าสู่ห้องโดยสาร เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจนั่นเอง
ความแตกต่างที่ 2: ยางรถ EV ทนต่อแรงบิดได้ดี
ในขณะเร่งบิดเครื่อง รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเพิ่มอัตราการเร่งขึ้นได้ในทันทีทำให้ดอกยางรถสึกหรอได้เร็วเป็นพิเศษ ยางของรถยนต์ไฟฟ้าจึงจำเป็นต้องถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อรอบแรงบิดเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของดอกยางให้มากขึ้นเป็นพิเศ
ความแตกต่างที่ 3: ยางรถ EV รองรับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ
โดยปกติแล้วรถยนต์ไฟฟ้ามีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลง ตัวยางรถ EV จึงต้องสามารถรองรับน้ำหนักของตัวรถที่มากขึ้นได้ด้วย
ความแตกต่างที่ 4: ยางรถ EV ลดแรงเสียดทานพื้นถนน
ในขณะที่ล้อกำลังหมุนไปตามพื้นถนน จะเกิดแรงเสียดทานระหว่างล้อกับพื้นถนนขึ้น ยิ่งแรงเสียดทานเยอะก็ยิ่งทำให้รถสูญเสียพลังงานในการเคลื่อนที่ไป ยางรถ EV จึงถูกออกแบบมาให้เกิดแรงต้านการหมุนต่ำ ช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ระหว่างการชาร์จพลังงาน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้านั้นวิ่งได้ไกลกว่าการใช้ยางรถยนต์ธรรมดา
ความแตกต่างที่ 5: ยางรถ EV ยึดเกาะถนนเป็นเลิศ
การยึดเกาะถนนมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักที่ยางรถยนต์ทุกประเภทพึงมี อย่างไรก็ตาม ยางรถ EV นั้นถูกออกแบบมาให้คุณสมบัติในการยึดเกาะดีกว่ายางรถยนต์ทั่วไป เพื่อให้สอดคล้องกับระบบเบรกเฉพาะ Regenerative Braking ที่ทำให้รถชะลอตัวลงเมื่อเหยียบเบรค
ทุกท่านอาจจะเห็นว่ามีคุณสมบัติที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพดีกว่ามากแบบนี้ ยางรถ EV นั้นจึงมีราคาสูงกว่ายางรถยนต์ปกติทั่วไปเช่นกันครับ แต่อย่างไรก็ดี คุณสมบัติที่ได้มา แอดมินว่าก็คุ้มค่าในการต้องจ่ายเงินที่แลกไปครับ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่เสียเงินแล้วคุ้มค่าก็คือประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 Single Rate ที่คุ้มครองครบทุกภัยและคุณยังสามารถเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมได้แบบเหมาะสม พร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลดจัดเต็มอีกด้วยครับ