สาระน่ารู้


เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย เรื่องพลังงานของ รถยนต์ไฟฟ้า Neta V กับ รถที่ใช้น้ำมัน

 

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้บางคนยังไม่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า คือไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ดีกว่าจริงไหม?

 

เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้าประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมันจริง เราจึงนำข้อมูลของราคาพลังงาน อัตราการกินน้ำมันของรถยนต์ และระยะทาการใช้รถ มาคำนวณให้ทุกท่านดูกันครับ ถ้าพร้อมรับฟังข้อมูลแล้ว เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลยครับ

 

ทำไมถึงต้องเลือกรถยนต์ไฟฟ้า Neta V มาเป็นตัวแทนรถยนต์ไฟฟ้า?

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าที่เลือกรถยนต์ไฟฟ้า Neta V มา ก็เพราะว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงง่าย และราคาเปิดตัวเริ่มต้นเป็นเรทที่คนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้อยู่ ณ ตอนนี้ จึงนำมาเป็นค่าเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดบ้านเราครับ

 

ค่าเฉลี่ยราคาพลังงาน : จริงๆ การจะหาค่าเฉลี่ยของราคาพลังงานเป็นเรื่องที่ยากมาก เลยจำเป็นต้องใช้การประมาณเพื่อหาค่าเฉลี่ยให้ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งตัวเลขที่คำนวณออกมานั้นได้ราคาดังนี้ครับ

- ค่าน้ำมัน 40บาท / ลิตร

- ค่าไฟฟ้าชาร์จที่สถานี (On Peak) 7.5บาท / หน่วย

- ค่าไฟฟ้าชาร์จที่สถานี (Off Peak) และ ชาร์จไฟที่บ้าน (On Peak) 4.5บาท / หน่วย

- ชาร์จไฟที่บ้าน (Off Peak) และเปลี่ยนมิเตอร์ TOU 3บาท / หน่วย

 

ค่าเฉลี่ยการกินพลังงานของรถยนต์ : เราได้ทำคำนวณอัตราการกินน้ำมันและไฟฟ้าของรถยนต์ในท้องตลาดหลายยี่ห้อ ซึ่งข้อสรุปของค่าเฉลี่ยที่ได้คือดังนี้ครับ

- รถยนต์น้ำมันทั่วไป อัตรากินน้ำมันอยู่ที่ 10กิโลเมตร / ลิตร

- รถยนต์อีโคคาร์หรือรถยนต์ไฮบริด  อัตรากินน้ำมันอยู่ที่ 15กิโลเมตร / ลิตร

- รถยนต์ไฟฟ้า Neta V ใช้ไฟฟ้า 100%อัตราการกินไฟอยู่ที่ 300กิโลเมตร / 38.54kWh

 

ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อ 1กิโลเมตรของรถยนต์แต่ละชนิดมีดังนี้ครับ

- รถยนต์น้ำมันทั่วไป 4บาท / กิโลเมตร

- รถยนต์อีโคคาร์หรือรถยนต์ไฮบริด 2.67บาท / กิโลเมตร

- รถยนต์ไฟฟ้า EV 0.96บาท / กิโลเมตร

 

ด้วยตัวเลขเหล่านี้จึงสรุปได้ว่าถ้าเราใช้รถยนต์แต่ละประเภทไปนาน ๆ จนวิ่งถึง 200,000กิโลเมตร (ใช้เวลาราว 8-10ปี) จะเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่างกันดังนี้ครับ

- รถยนต์น้ำมันทั่วไปเสียเงินทั้งสิ้น 800,000บาท

- รถยนต์อีโคคาร์หรือรถยนต์ไฮบริดเสียค่าน้ำมันทั้งสิ้น 530,000บาท

- ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า EV ของเราเสียไปแค่ 190,000บาท เท่านั้น (ซึ่งอาจถูกกว่านี้ด้วย ขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ชาร์จด้วยครับ)

 

จะเห็นได้ว่ายิ่งใช้รถยนต์ไฟฟ้านานเท่าไหร่ก็ช่วยให้เจ้าของรถยนต์ประหยัดได้มากขึ้นเท่านั้นครับ ยิ่งไปกว่านั้นการรถยนต์ไฟฟ้าไปนานๆ จะยิ่งทำให้สิ่งแวดล้อมของโลกเราดีขึ้นอีกด้วยครับ

 


ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์: springnews

 

จำนวนคนอ่าน : 7780
ผู้เขียน : Admin วันที่ : 4/11/2565 18:48:41